เสียงสวดมนต์เป็นยาอัน
แสนวิเศษ


บทความสุขภาพ
+ดื่มกาแฟลดมะเร็ง
+ถั่วงอกชะลอแ่ก่
+กินจืดยืดชีวิต
+ Article Health
+ หนังสือสุขภาพ

   


บทความสุขภาพ
สุขภาพดีบำรุงรักษาผม
ดูแลสุขภาพดื่มเหล้าเสี่ยง
อาหารสุขภาพข้อดีการดื่มกาแฟ
อาหารเสริมการไม่กินเนื้อสัตว์
สมุนไพรดื่มน้ำสะอาด

สุขภาพดีสมุนไพร
+กล้วยหอม
+
อินทผลัม 
+
เกาลัด
+กล้วยหอม

+มะขาม

Stock Photos, Royalty Free Stock Photography, Photo Search

+น้ำกระเจี๊ยบ ช่วย
ลดไขมันในเลือด
+สารคลอโรฟิลด์
มีประโยชน์อย่างไร
+ประโยชน์ข้าว
โอ๊ด-โยเกิรต

+โยคะลดต้นขา
กระชับสะโพก

+งาดำ
+วิธีขจัดเซลลูไลท์

สุขภาพดี บทความสุขภาพ อาหารสุขภาพ สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย
Custom Search

เสียงสวดมนต์เป็นยาอันแสนวิเศษ

     
การสวดมนต์ด้วยสมาธิ มีเสียงดังใช้หลักการทำให้เกิดคลื่นเสียงที่มีความ
สม่ำเสมอ เพื่อเข้าไปกระตุ้นร่างกายให้เกิดการเยียวยา คลื่นเสียงของบท
สวดมนต
์ที่มากระทบจะต้องมีความถี่สม่ำเสมอ เพราะเสียงสวดมนต์ดัง
แบบไร้ระเบียบมีความถี่ต่างๆกันก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อการบำบัด เมื่อหูของ
เราได้ยินเสียงบทสวดมนต์ ก็จะส่งสัญญาณต่อไปยังศูนย์การได้ยินที่อยู่
บริเวณสมองและส่งต่อไปยังก้านสมอง

เมื่อได้รับคลื่นเสียงช้าๆ สม่ำเสมอของบทสวดมนต์ประมาณ15 นาที ก็
จะหลั่งสารสื่อประสาทที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอาทิ ช่วยความจำ ลดความ
เครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำตาลในเลือดฯลฯ

รองศาสตราจารย์ ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี หัวหน้าภาควิชาการ
พยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบาย
เพิ่มเติมดังนี้

สมองของเราเมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงช้าๆ สม่ำเสมอประมาณ
15 นาทีขึ้นไป จะทำให้เซลล์ประสาทของระบบประสาทสมองสังเคราะห์
สารสื่อประสาทหลายๆ ชนิด บริเวณก้านสมองจะหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ
ซีโรโทนิน (serotonin) เพิ่มขึ้น ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ  ซึ่งสามารถ
ช่วยในเรื่องทักษะการเรียนรู้ ลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับ
น้ำตาลในเลือด และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทอื่นๆ
เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเปรียบคล้ายกับยาอายุวัฒนะ เพราะจะช่วยยืดอายุการ
ทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ร่างกาย ให้ชีวิตยืนยาวขึ้น และยังมีคุณสม
บัติช่วยให้นอนหลับ เพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้เซลล์สดชื่นขึ้นรวมถึงโดปามีน
มีฤทธิ์ลดความก้าวร้าวและอาการพาร์กินสัน


นอกจากนี้ ปริมาณของซีโรโทนินมีความสัมพันธ์ต่อการกระตุ้นการหลั่ง
สารสื่อประสาทอื่นๆ เช่น อะเซทิลโคลีน ช่วยในกระบวนการเรียนรู้และ
ความจำ ช่วยขยายเส้นเลือด ทำให้ความดันลดลง และยังช่วยลดปริมาณ
อาร์กินิน วาโซเปรสซิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมความก้าวร้าว ความสมดุลของ
น้ำ และซีโรโทนินยังเข้าไปลดปริมาณของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เป็นตัวกระ
ตุ้นของการทำงานของต่อมหมวกไตให้ลดลง ส่งผลให้ระบบประสาทส่วน
กลางทำงานน้อยลง ร่างกายจึงรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง และไม่เครียด
ภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น  ดังนั้น จุดสำคัญจึงอยู่ที่ร่างกายจะสามารถสร้างสาร
สื่อประสาทได้หรือไม่
อาจารย์สมพร เสริมว่า "หลักการสำคัญอยู่ที่หากมีสิ่งเร้าหลายๆ ประเภท
เข้ามารบกวนกระบวนการทำ งานของคลื่นสมองพร้อมๆ กัน ทำให้สัญ
ญาณคลื่นสมองเปลี่ยนไป การหลั่งสารสื่อประสาทจะสับสน ไม่มีผลใน
การเยียวยา สิ่งเร้านี้มาจากหลายส่วนทั้งตัวเอง เช่น บางคนปากสวดมนต์
แต่คิดฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่น ก็ไม่ได้ประโยชน์ และการเกิดเสียงดังอื่นๆ เข้า
มารบ กวนขณะสวดมนต์ เพราะประสาทสัมผัสของมนุษย์รับรู้ได้ไว และ
อ่อนไหวมาก เรามีตัวประสาทรับสัญญาณมากมาย เรารับสิ่งเร้าได้ทั้งจาก
ทางปาก ตา หู จมูก การเคลื่อนไหว และใจ เหล่านี้ทำให้สัญญาณคลื่นสมอง
สับสนและเปลี่ยนไป ร่างกายก็จะสร้างซีโรโทนินได้ไม่มากพอ" และไม่ใช่
เฉพาะสารสื่อประสาทที่มีประโยชน์เท่านั้นที่เราจะได้จากการสวดมนต์ แต่
การสวดมนต์ยังทำให้อวัยวะต่างๆ ได้รับการกระตุ้น คล้ายกับการนวดตัว
เองจากการเปล่งเสียงสวดมนต์

ข้อมูลจาก สสส.
post 2 MAR.2013


 บทความสุขภาพ สมุนไพร อาหารสุขภาพ
ในหลวง
ขอจงทรงพระเจริญ
โครงการพระราชดำริ

หน้าต่างสุขภาพ

สุขภาพดีดีหน้าต่างสุขภาพ

+สุขภาพผู้หญิง
+สุขภาพผู้ชาย
+สุขภาพเด็ก
+สุขภาพวัยรุ่น
+ผู้สูงอายุ

อาหารสุขภาพสถานที่เที่ยวไทย

โรคภัยไข้เจ็บการรักษาโรค
- โรคเบาหวาน
- โรคภูมแพ้
- โรคมะเร็ง
- โรคหัวใจ
- โรคไต


อาหารสุขภาพอาหารสุขภาพ
+เห็ดล้างพิษ
+
ฟักทองผัดไข่
+น้ำมะนาว
+ถั่วเขียวต้ม
งาดำ
+สาหร่ายทะเล
+กล้วยหอมงาดำ 
+กล้วยน้ำหว้าโรยงา

อาหารสุขภาพLINK WEB
+ สาธารณสุข
+ สสส



  บทความสุขภาพ
+ว่านหางจระเข้
+กินไข่แค่ไหน ถึง
จะพอดี

+Future FOOD
+รู้ทันสุขภาพผู้ชาย
+รักษาหุ่นสวยไม่
ต้องอดอาหาร