สุขภาพดี บทความสุขภาพ อาหารสุขภาพ สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย
ค้นหาบทความสุขภาพ remahealth.com
Custom Search
|
เมื่อถูกงูกัดควรทำอย่างไร ก่อนถึงมือหมอ นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรคแนะนำวิธีปฐมพยาบาลให้ถูกวิธี เมื่อถูกงูกัด หากถูกงูมีพิษกัด จะมีสัญญาณเตือน 7 ประการดังนี้
1.มีรอยเขี้ยว 2 ข้าง และมีอาการบวมแดงรอบๆรอยกัด แต่บางครั้ง
อาจจะเห็นเพียงรอยเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถูกกัดบริเวณปลายมือ
ปลายเท้า หรือบางครั้งอาจเห็นมากกว่า
2 รอยหากถูกกัดมากกว่า 1ครั้ง 2.อาจมีอาการปวดอย่างรุนแรง
3.คลื่นไส้อาเจียน
4.หายใจติดขัด หากรุนแรงอาจหยุดหายใจได้
5.สายตาขุ่นมัว
6.มีน้ำลายมากผิดปกติ และ
7.หน้าชาไม่รู้สึกหรือชาตามแขนขา โดยพิษนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของงู เช่น งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา จะมีพิษต่อระบบ
ประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหนังตาตก กลืนลำบาก พูดไม่ชัด และหยุดหายใจ
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด
ภายหลังถูกงูพิษกัด ประชาชนควรทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนถึง
มือแพทย์ โดยบีบเลือดบริเวณบาดแผลออกเท่าที่ทำได้ เพื่อขจัดพิษงู
ออกจากร่างกาย ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและฟอกสบู่หรือน้ำด่างทับทิม
ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง เช็ดแผล และรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
โดยพยายามให้อวัยวะที่ถูกกัดเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด อาจดามบริเวณ
ดังกล่าวให้อยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ เพื่อชะลอการซึมของพิษงู หากเป็น
ไปได้ ให้นำซากงูพิษที่กัดไปให้แพทย์ดูด้วย
สิ่งที่ไม่ควรทำในการช่วยเหลือผู้ที่ถูกงูพิษกัดคือ
1.ห้ามใช้เหล้า ยาสีฟัน หรือสิ่งอื่นๆ ทาแผล พอกแผล เนื่องจากอาจ
ทำให้แผลติดเชื้อ
2.ไม่ควรกรีดแผล เนื่องจากจะทำให้พิษงูกระจายเข้าสู่ร่างกายได้
เร็วขึ้น
3.ไม่ควรใช้ปากดูดเลือดจากแผลงูกัด เพราะอาจเกิดอันตรายร้าย
แรงต่อผู้ดูดได้
4.ห้ามให้ผู้ถูกงูกัดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มผสมคาเฟอีน
5.ห้ามขันชะเนาะเพราะอาจทำให้เนื้อตายได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:สสส.
Post 060616
บทความโรคภัยไข้เจ็บ อาการเห็นแสงวาบในลูกตา
วิธีแก้ตากระตุกวิธีป้องกันตาแห้ง