สุขภาพดี บทความสุขภาพ อาหารสุขภาพ สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย
ค้นหาบทความสุขภาพ remahealth.com
Custom Search
กินผัก ผลไม้ตามกรุ๊ปเลือด |
ผักและผลไม้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับร่างกายมากมายกินผักและผล
ไม้ให้เป็นประจำสม่ำเสมอ จะทำให้สุขภาพแข็งแรง และทำให้ห่าง
ไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ การเลือกกินผักผลไม้ให้ตรงกับกรุ๊ปเลือด
จะเป็นทางเลือกที่ดีสำำหรับสุขภาพที่ดี
กรุ๊ปเลือด A สำหรับชาวกรุ๊ป A สามารถกินได้ทั้งผักดิบและผักสุก โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่ บรอกโคลี เพราะมีสารแอนติออกซิแดนท์สูง รวมไปถึงแครอต ผักโขม และกระเทียม จะเข้าไปช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนฟักทองจะช่วยเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร
ส่วนผลไม้คนกรุ๊ปเลือด A สามารถกินผลไม้ได้ทุกชนิด ยกเว้นแตง
โม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะจะย่อยยาก
กรุ๊ปเลือด B
คนกรุ๊ปเลือด B มีผักที่ควรกินก็คือ บรอกโคลี กะหล่ำปลี หอมหัว
ใหญ่ ขิง รวมไปจนถึงผักใบเขียวทุกชนิด เพราะมีแมกนีเซียมสูง สามารถช่วยป้องกันอาการผื่นคันได้ ส่วนผลไม้กินได้แทบทุกชนิด
โดยเฉพาะสับปะรด เพราะมีเส้นใยอาหารสูง แถมยังช่วยให้เลือด
หมุนเวียนได้ดี ควรหลีกเลี่ยงการทานลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์
กรุ๊ปเลือด O
คนที่มีกรุ๊ปเลือด O สามารถกินผักได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะบลอก
โคลี ผักโขม เพราะมีวิตามินเคสูง หลีกเลี่ยงผักตระกูลกะหล่ำ เนื่อง
จากมีผลต่อไทรอยด์ รวมถึงเห็ดหอม เพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้
ส่วนมะเขือยาวและมันฝรั่งก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะจะทำให้ปวด
ข้อ
ส่วนผลไม้ก็กินได้แทบทุกชนิดเช่นกัน โดยเฉพาะบลูเบอร์รี่และเชอร์รี่
รวมถึงผลไม้ตระกูลเกรปฟรุต เนื่องจากช่วยลดน้ำหนักได้ดี และควร
เลี่ยงแคนตาลูป มะพร้าว ส้ม และ สตรอแบรี่ เพราะมีความเป็นกรดสูง
กรุ๊ปเลือด AB
ชาวกรุ๊ปเลือด AB สามารถกินผักได้แทบทุกชนิด ถ้าเป็นธัญพืชแนะ
นำให้กินข้าวโอ๊ตและข้าวไรน์ เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควร
หลีกเลี่ยงถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และข้าวโพด เพราะชะลอการทำงานของอินซูลิน
สำหรับผลไม้ของคนกรุ๊ปเลือดAB จะกินได้เป็นบางอย่าง เช่น องุ่น
สับปะรด พลัม เชอร์รี่ แครนเบอร์รี่ ส้มโอ ฯลฯ เพราะจะช่วยสร้าง
ความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ ส่วนผลไม้ที่ควรเลี่ยง ได้แก่ กล้วย
มะพร้าว มะม่วง และฝรั่ง
อ่านแล้วอย่าพึงเชื่อ ต้องทดลองกับตัวเอง ว่ามันจริงหรือเปล่า กินผัก
ผลไม้แบบไหนถึงจะดีต่อร่างกายของเรา เพราะตัวเราเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด
ว่าอะไรดีสำหรับตัวเราที่สุด และทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลจากlifestyle.th.msn.com
post17Jan.2014
บทความสุขภาพ สมุนไพร อาหารสุขภาพ