ค้นหาบทความสุขภาพ remahealth.com
Custom Search
|
เหตุผล 3 ข้อห้ามถอนหงอก
1.ผมคุด หากถอนเส้นผมหรือเส้นขนอย่างรวดเร็วจากผิว ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของร่างกาย
เป็นการรบกวนผิวให้แตกหรืออาจทำให้เยื่อบุผิวรอบๆ เส้นผมเสียหายอาจส่งผลถึงรากผม
นีล ชูลท์ซ ผู้ก่อตั้ง Beauty by Dr. Schultz อธิบายว่า การรบกวนผิวเช่นนี้ยังก่อผลเสียได้อีกมาก
โดยเฉพาะปัญหาที่พบมากที่สุดก็คือ ขนคุดหรือผมคุด เพราะหากเยื่อบุผิวเสียหาย เมื่อผมเกิดใหม่จะไม่
สามารถโผล่ออกจากใต้ผิวหนัง แต่จะเจริญเติบโตอยู่ภายใน กลายเป็นผมคุดในที่สุด ขนคุดสามารถก่อ
ให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ส่วนในรายที่มีเส้นขนค่อนข้างแข็ง ยังสามารถมีอาการอักเสบเป็น
ตุ่มแดง ไปจนถึงมีอาการเจ็บร่วมด้วยได้
-
2.ผมบาง เมื่อกระตุกผมหงอกอย่างแรง อาจส่งผลให้หนังศีรษะและรากผมเสียหายไปบ้าง ฟรานเชสกา
ฟัสโก แพทย์ผิวหนังของผลิต-ภัณฑ์เพื่อเส้นผมเคลียร์ อธิบายว่า วินาทีแห่งความเจ็บปวดที่ต้องกระตุก
ถอนผมหงอกนั้น อาจเป็นเวลาที่หลอดเลือดแดงขยายตัวทำปฏิกิริยากับความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยที่
ร่างกายรู้สึก และส่งผลไปยังรากผม แม้จะเป็นสิ่งที่เกิดได้น้อยมาก แต่หากคุณถอน ดึง กระตุกหรือกระชาก
ผมหงอกต่อเนื่องกันอย่างแรง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับหนังศีรษะนี้ก็อาจทำให้ผมบางลง ยาวช้า หรือ
อาจไม่มีผมงอกใหม่ขึ้นมาอีกเลยก็เป็นได้
3.เสียเวลา การถอนผมหงอกไม่เกิดประโยชน์อันใดนอกจากเป็นการแก้ปัญหาเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
เพราะหลังจากที่คุณจัดการดึงผมขาวออกแล้ว วงจรของรากผมจะรีเซ็ทตัวเองและเส้นผมเกิดใหม่ก็จะขึ้น
มาแทนที่ ณ จุดเดิม โดยที่ยังคงเป็นผมขาว เนื่องจากเซลล์เม็ดสีในรากผมได้ตายไปแล้ว ผมที่เกิดขึ้น
มาจึงขาดสีสันของผมเดิม ที่เป็นสีดำ สีน้ำตาล ก็กลายเป็นผมหงอก ผมขาว โดยที่ไม่มีวันกลับมาเป็น
ผมสีเดิม (ข้อมูลจากbangkokbiznews.com)
ความเชื่อในเรื่องของการถอนผมหงอกแล้ว จะยิ่งทำให้ผมหงอก
ขึ้นมากกว่าเดิมนั้น ความจริงแล้วรากผม 1 เส้น จะสร้างผมได้ 1 เส้น ต่อให้ตัดหรือถอนก็ไม่สามารถ
ทำให้เส้นผมเพิ่มขึ้นได้ เพราะเส้นผมหงอกที่ถูกถอนหนึ่งเส้นจะไม่สามารถสร้างผมหงอกขึ้นมาได้อีก
ดังนั้น การที่ยิ่งถอนยิ่งหงอก จึงไม่เป็นความจริง แต่ผมหงอกที่เพิ่มขึ้น คงจะมาจากปัจจัยอื่นมากกว่า
การป้องกันผมหงอกก่อนวัย ควรดูแลผมให้ดกดำด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์จากวิตามินบี ,
ไบโอติน และสังกะสี เช่น งาดำ, ข้าวกล้อง, ตับหมู, ปลาเนื้อขาว และแครอท เป็นต้น
(ข้อมูลจากเดลินิวส์ )