ค้นหาบทความสุขภาพ remahealth.com
Custom Search
|
กีวีผลไม้มากคุณค่า
กีวีเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน บริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ในปีพ.ศ. 2449 มีผู้นำไปปลูกที่
นิวซีแลนด์และได้ปรับปรุงพันธุ์จนได้ กีวีที่รสดีมากขึ้นจนกลายเป็นผู้ส่งออกกีวีรายใหญ่ที่สุด ส่วนใน
ประเทศไทยนำกีวีเข้ามาปลูกที่ดอยอ่างขาง และดอยขุนวาง จังหวัดเชียงใหม่ ในโครงการพราชดำริ
ของในหลวง ร.9
1.แหล่งวิตามินซีในปริมาณสูงสุด กีวีสีเขียวและกีวีโกลด์หรือกีวีสีทองทั้งสองชนิดมีปริมาณ
วิตามินซีสูงสุดหากเทียบกับผลไม้ขึ้นชื่อเรื่อง
วิตามินซี อาทิ ส้ม หรือมะละกอ จากการวิจัยพบว่า
กีวีหนึ่งผลมีวิตามินซีมากกว่าส้มหนึ่งลูกถึง 74%
การกินกีวีทุกวันจะช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินซีในร่างกายช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันโรค
ช่่วยป้องกัน ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ และซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอและช่วยกระตุ้นการ
สร้างเซลล์ใหม่ ๆ
2. กีวีมีวิตามินอีสูง ซึ่งช่วยชะลอความแก่ชราด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดความเสื่อมของ
อวัยวะต่างๆ นอกจากจะช่วยป้องกันเซลล์จากการเสื่อมสภาพแล้ว ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอ
รอลและช่วยในการไหลเวียนของเลือดอีกด้วยจากการวิจัยพบว่ากีวีมีปริมาณวิตามินอีสูงสุด
โดยเฉพาะกีวีทองซึ่งมีวิตามินอีมากกว่ามะม่วงถึงหนึ่งเท่า
3. กีวีมีไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารสูง ไฟเบอร์เป็นสารที่เข้าไปยึดพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร
ทำให้อิ่มได้เร็วและนาน นอกจากนี้ยังช่วยชำระล้างและปรับปรุงระบบย่อยอาหารรวมถึงส่งเสริม
ให้หัวใจและร่างกายแข็งแรง กีวีเขียวหนึ่งผลมีปริมาณไฟเบอร์มากกว่ากล้วย 15% และมากกว่า
แอปเปิ้ลและส้มถึง 25%
4.กีวีควบคุมน้ำหนัก กีวีเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะการกินกีวี
ช่วยให้อิ่มเร็ว เพราะมีไฟเบอร์มาก ทำให้ไม่อ้วน
5.กีวีเป็นผลไม้ที่มีโอเมก้า-3 ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้
6.ซิงค์จากกีวี สังกะสี (ซิงค์) หรือ Zinc เป็นตัวช่วยควบคุมให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย
ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคอยช่วยซ่อมบำรุงระบบเอนไซม์และเซลล์ต่าง ๆ
7.กีวีช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันฟันผุ
ข้อมูลอ้างอิงจาก medthai.com,lovefitt.com
FoodHealth 26417
- บทความน่ารู้เกี่ยวกับอาหาร
- น้ำดื่มและเครื่องดื่มต่างๆ อาหารเช้าและชากาแฟ
- ผักและผลไม้ เมนูอาหารหวานคาว
- อาหารเจ อาหารประเภทถั่ว
- อาหารประเภทนมอาหารประเภทไข่
- เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเห็ด